วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2562

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม


อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 74 ของประเทศ มีเนื้อที่ประมาณ 212,500 ไร่ หรือ 340 ตารางกิโลเมตร สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงต่ำสลับกันไปทั่วพื้นที่ ระดับความสูงของพื้นที่อยู่ระหว่าง 100-600 เมตรจากระดับน้ำทะเล แนวเขตด้านทิศตะวันออกใช้เส้นแบ่งเขตแดนประเทศและติดกับประเทศลาว ซึ่งมีแม่น้ำโขงเป็นแนวเขตโดยตลอดความยาวประมาณ 63 กิโลเมตร สภาพพื้นที่โดยรวมเป็นลานหิน รอบแนวเขตถัดจากฝั่งแม่น้ำโขงจะเป็นหน้าผาสูงชัน มีภูผาที่สำคัญได้แก่ ภูผาขาม ภูผาเมย ภูผาเจ็ก ภูผาสร้อย ภูย่าแพะ ภูชะนะได ภูผานาทาม ภูโลง ภูปัง ภูจันทร์แดง ภูหลวง ภูสมุย และภูกระบอ เป็นต้น อุทยานแห่งชาติผาแต้มเป็นแหล่งต้น้ำาลำธารของห้วยช้าง ห้วยภูโลง ห้วยฮุง ห้วยลาน ห้วยเพราะ ห้วยแยะ ห้วยกวย ห้วยกะอาก ห้วยใหญ่ ห้วยสูง และห้วยหละหลอย

สิ่งที่ทำให้คนไทยที่ไม่ใช่เพียงนักท่องเที่ยวรู้จักกับผาแต้ม คือ การที่ผาแต้มเป็นพื้นที่ที่ใช้อ้างอิงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นของประเทศไทย ดังจะได้ยินกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศในทุกเช้าอยู่เสมอว่าเวลาพระอาทิตย์ขึ้นวัดจากผาชะนะได ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของอุทยาน จึงเป็นจุดที่มองเห็นพระอาทิตย์ก่อนใครในสยาม ในด้านธรรมชาติที่นี่ยังอุดมด้วยป่าเต็งรังและป่าดิบแล้งจำนวนมาก สลับกับลานหินกระจายอยู่ทั่วภูเขา รวมถึงหน้าผาหินที่บริเวณผาแต้มเมื่อมองดูจากแม่น้ำโขงด้านล่างจะเห็นเป็นหน้าผาสูงที่สวยงามตามธรรมชาติ บริเวณด้านล่างของหน้าผามีภาพเขียนของสีก่อนประวัติศาสตร์ปรากฏเรียงรายอยู่ตามผนังเป็นจำนวนมาก เป็นภาพเขียนสีศิลปะถ้ำโบราณที่มีอายุเก่าแก่ และเป็นแหล่งที่พบมากที่สุดในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งคงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ควรค่าแก่การเก็บรักษา จนได้มีการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2534 เป็นต้นมา

การเดินทางมาเที่ยวที่ผาแต้มนั้นมีสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่ง ทั้งทางโบราณคดีและธรรมชาติ ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายด้วยถนนลาดยางเข้าถึงที่ทำการอุทยานฯ และยังเชื่อมต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง คุณจึงสามารถขับรถเที่ยวได้ง่าย ในเส้นทางไปยังที่ทำการคุณสามารถจอดรถเที่ยวชมเสาเฉลียงซึ่งตั้งอยู่ริมทางก่อนถึงผาแต้มเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น ที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มมีเสาเฉลียงให้ชมอยู่ 2 แห่ง คือเสาเฉลียงคู่แห่งนี้ และเสาเฉลียงใหญ่ที่อยู่ในเขตบ้านผาชัน บนเนินหินด้านหลังเสาเฉลียง คุณยังสามารถเดินขึ้นไปชมวิวแม่น้ำโขงตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติได้ด้วย ถัดจากการเที่ยวชมเสาเฉลียงแล้ว ขับรถมาถึงลานจอดรถเพียงเดินเท้าผ่านลานหินไม่ไกลก็ได้มาชมภาพเขียนสีของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์มีอายุราว 3,000-4,000 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มภาพเขียนสีที่ยาวที่สุดในประเทศไทย การเดินชมภาพเขียนมีเส้นทางเดินลอดไปตามหน้าผาวกกลับมายังศูนย์บริการ ซึ่งคุณสามารถเดินเที่ยวได้ภายในวันเดียว จากนั้นจึงขับรถไปเที่ยวชมน้ำตกสร้อยสวรรค์ จากน้ำตกสร้อยสวรรค์ ยังมีเส้นทางเดินผ่าไปชมวิวที่ผาเจ๊ก และผาเมยได้อีก ระยะทาง 3 กิโลเมตร

สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวผาแต้มอีกแห่งหนึ่งคือ น้ำตกแสงจันทร์ หรือน้ำตกรู ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ มีถนนลาดยางเข้าถึงลานจอดรถและเดินเท้าเข้าไปชมน้ำตกได้สะดวก ในเส้นทางเดียวกันนี้ขับรถต่อไปอีกหน่อยมีน้ำตกทุ่งนาเมืองให้คุณได้เที่ยวชมอีกเช่นกัน และไปจบรายการเส้นทางนี้ที่เถาวัลย์ยักษ์ ที่สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ หากคุณเป็นคนชอบเดินป่า จากหน่วยพิทักษ์อุทยานคันท่าเกวียนยังมีเส้นทางเดินไปชมน้ำตกห้วยนาเมืองใหญ่ ภูถ้ำน้ำ ผาหินฝน ถ้ำโบกโลง กลุ่มเสาเฉลียง หินโยกมหัศจรรย์ ผาแดง และโหง่นแต้มได้ด้วย การเดินทางต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางด้วย หากคุณมีเวลาไม่มากนัก เพียงขับรถมาชมน้ำตกทุ่งนาเมืองก็เพียงพอแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้เส้นทางไปยังบ้านนาโพธิ์กลาง-บ้านซะซอม หากเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อสามารถขับไปจนถึงถ้ำปาฏิหาริย์ได้ จากนี้จะเป็นเส้นทางเดินป่าพิชิตยอดผาชะนะได ซึ่งเป็นเส้นทางเดินป่าที่นิยมของนักเดินไพรเป็นอย่างยิ่ง

อุทยานแห่งชาติผาแต้มได้จัดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติพิชิตยอดผาชะนะไดไว้ 3 เส้นทางด้วยกัน ซึ่งคุณสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปีและเลือกเส้นทางที่ท้าทายได้ตามความชอบ คือ เส้นทางผาแต้ม-น้ำตกสร้อยสวรรค์ เส้นทางน้ำตกทุ่งนาเมือง-ผาชะนะได และเส้นทางถ้ำปาฏิหาริย์-ผาชะนะได ซึ่งเส้นทางสุดท้ายนี้จะผ่านน้ำตกสะปัน และหน่วยพิทักษ์อุทยานที่ 5 (ดงนาทาม) ก่อนจะเดินตัดขึ้นเขาไปยังน้ำตกห้วยพอก และหน้าผาชะนะได การเดินทางในเส้นทางนี้ต้องค้างแรมกลางป่าและแค้มป์ปิ้ง เหมาะกับนักท่องเที่ยวประเภทลุยๆ จากผาชะนะไดยังสามารถเดินไปเที่ยวที่ถ้ำฝ่ามือแดง ผาหินแตก และผากำปั่นได้อีกด้วย
เสน่ห์อย่างหนึ่งของการเดินทางมาท่องเที่ยวผาแต้ม นอกจากการมาชมภาพเขียนสี ดูน้ำตก เดินป่าพิชิตยอดสูงสุดที่มองเห็นพระอาทิตย์ก่อนใครในสยามแล้ว ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปี ยังเป็นช่วงที่จะผลิบานอวดดอกสวยเต็มลานหินด้วย ช่วยสร้างสีสันให้กับอุทยานฯ แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีเวลาน้อย และเดินป่าไม่ไหวแต่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ

หลังจากเที่ยวที่ผาแต้มเสร็จแล้ว ยังสามารถไปพักผ่อนปิกนิกริมแก่งมโนราห์เป็นรายการปิดท้ายได้อีก จะนั่งชมวิวรับประทานอาหารหรือลงเล่นน้ำก็ได้ทั้งนั้น




แผนที่


ไม่มีความคิดเห็น:
Write ความคิดเห็น